กาญจนบุรี ไม่เพียงแต่โดดเด่นในเรื่องของ ภูเขา น้ำตก และเรื่องราวของประวัติ เท่านั้น แต่ยังมีวัดสวยเป็นเอกลักษณ์ให้เที่ยวหลายวัด ทั้งวัดที่มีชื่อเสียงมานานอย่างวัดถ้ำเสือ และวัดใหม่ๆอีกหลายแห่ง ที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อและศักดิ์สิทธิ์ มาถึงเมืองกาญจน์ ทั้งที ต้องหาโอกาสเข้าวัด สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลให้กับชีวิต กับ 8 วัดสวยน่าเที่ยวแห่งกาญจนบุรี
วัดถ้ำเสือ
วัดถ้ำเสือ ตั้งอยู่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี สิ่งที่สะดุดสายตาของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมวัด เพื่อกราบนมัสการพระธาตุ ก็คือ ความใหญ่โตกว้างขวางของวัด และพระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อเดินทางมาถึงชั้นบนสุดของวัดเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวในมุมสูงได้อย่างสวยงาม พร้อมกับสายลมเย็นที่พัดผ่าน หากมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนมองไปด้านล่างเห็นเป็นทุ่งนาเขียวขจีสดชื่น นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์เกศแก้วปราสาท องค์พระเจดีย์เป็นสีอิฐทั้งองค์แบ่งเป็นชั้นต่างๆ หลายชั้น แต่ละชั้นประดิษฐาน พระพุทธรูป มากมาย จนถึงชั้นบนสุดเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย
วัดสระลงเรือ
วัดสระลงเรือ ตั้งอยู่ใน ตำบลสระลงเรือ อำเภอห้วยกระเจา วัดนี้มีจุดเด่นและเริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อมีการสร้างเรือสุพรรณหงษ์จำลองที่ใหญ่ ที่สุดในโลกสร้างขึ้นในสระน้ำขนาดใหญ่ของวัดมีลักษณะ สวยงามวิวจิตรตระการตาซึ่งด้านในเรือซึ่งสามารถเข้าไปชมด้านในได้โดย บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ด้านบนเพื่อกราบไหว้บูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ภายในวัดสระลงเรือยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกมากมายได้แก่ หลวงพ่อใหญ่องค์ดำ รวมถึงอุโบสถของวัดซึ่งมี 2 ชั้นจำลองเมืองนรกในชั้นล่าง และทางด้านรอบอุโบสถ ยังมีพระเกจิชื่อดังทุกภาคของประเทศ, เทพเจ้าของจีน และของไทยอีกมากมาย
วัดทิพย์สุคนธาราม
วัดทิพย์สุคนธาราม ตั้งอยู่ใน อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ ซึ่งวัดนี้มีสิ่งที่โดดเด่น คือ “พระพุทธเมตตา ประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์” พระพุทธเมตตาฯเป็นพระพุทธรูปปางขอฝนเนื้อสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งพระปางขอฝน ได้ถูกใส่ไว้ให้เป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยวตามตำนานเขาเล่าว่าของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยว่า “ครั้งหนึ่งใน สมัยพุทธกาลนั้นฝนแล้งมากแต่ด้วยพระพุทธบารมีได้ทรงพลิกพื้นที่แห้งแล้งให้มีน้ำฝนหลั่งไปทั่วทุกสารทิศ ว่ากันว่าหากได้มากราบไหว้ชีวิตจะพบแต่ความร่มเย็นเป็นสุขดั่งแผ่นดินที่ได้รับสายฝน
วัดถ้ำพุหว้า
วัดถ้ำพุหว้า ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตัววัดเป็นศิลปะแบบขอมประยุกต์ที่สวยงาม เป็นวัดป่าอยู่ในอ้อม กอดของขุนเขามีบรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบเหมาะแก่การวิปัสสนาและสงบจิตใจแต่เดิมวัดแห่งนี้มีถ้ำเป็นอุโบสถ แต่ปัจจุบันได้รับการบูรณะให้สวยงามอลังการด้วยการสร้างอุโบสถหินทรายมีการแกะสลักลวดลายรอบอุโบสถได้อ่อนช้อยงดงามครอบตัวถ้ำเอาไว้ เมื่อเดิน เข้าไปในพระอุโบสถก็จะถึงปากทางเข้าถ้ำ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามตามธรรมชาติมีปล่องแสงภายในถ้ำเพื่อให้แสงส่องลงมา มีพระพุทธรูปหลายองค์ รวมถึงพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสหภาพเมียนมาร์ประดิษฐานไว้ให้สักการะบูชา
หินเทพช้าง วัดทัพศิลา
หินเทพช้าง ตั้งอยู่ในวัดทัพศิลา ตำบลช่องสะเดาอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี มีลักษณะเป็นกลุ่มหินมีรูปร่างคล้ายช้างหมอบอยู่ และจมอยู่ที่พื้นที่เกือบครึ่งตัวภายใต้อาคารมีหลังคาคลุมทรงแปดเหลี่ยม มีระดับความลึกลงไปจากระดับพื้นดินปรกติประมาณ 2 เมตร มีความเชื่อต่อๆ กันมาว่า เทพช้างมีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากใครที่ได้มีโอกาสมาจุดธูปอธิษฐาน และนำผลไม้ที่ช้างชื่นชอบ อาทิ กล้วย อ้อย สัปปะรด ฯลฯ มาถวายแด่ “เทพช้างวัดทัพศิลา” และขอพรที่ตนปรารถนา ก็จะได้ตามสิ่งที่ปรารถนา นอกจากนี้ บริเวณเนินเขายังมีพระธาตุอินทร์แขวนจำลองยังเป็นจุดชม ทัศนียภาพมุมกว้าง ที่สวยงาม และมีลมพัดเย็นสบายอย่างต่อเนื่องด้วยพระพุทธรูปพระพุทธพิชิตมาร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ประดิษฐาน อยู่บริเวณหน้าวัดทัพศิลา
วัดวังก์วิเวการาม (วัดหลวงพ่ออุตตะมะ)
วัดวังก์วิเวการาม ตั้งอยู่ในอำเภอสังขละบุรี ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอันงดงามและเป็นวัดที่จำพรรษาของหลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งประชาชนชาวไทยชาวมอญรวมทั้งกระเหรี่ยง และพม่า ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นเคารพนับถือ ไม่ไกลจากวัดมีเจดีย์พุทธคยา เป็นที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุที่หลวงพ่ออุตตมะอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา ที่หลวงพ่ออุตตามะให้สร้างจำลองขึ้น เพื่อบรรจุ พระบรมสารีริกธาติ กระดูกนิ้วหัวแม่มือขวาของพระพุทธเจ้าที่ขนาด เท่าเมล็ดข้าวสาร ไว้เป็นที่ สักการะของพุทธศาสนิกชน
เรือเทวดา วัดใต้
วัดไชยชุมพลชนะสงคราม หรือ วัดใต้ วัดประจำจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่เลขที่ถนนไชยชุมพล ตำบลบ้านใต้ อำเภอเมืองกาญจนบุรี เป็นวัดพระอารามหลวง สร้าง ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย มีพระเจดีย์เก่าแก่องหนึ่งอยู่ใกล้พระอุโบสถหลังเก่า ตั้งอยู่ริมตลิ่งพระเจดีย์องค์นี้มีชื่อทาง โบราณคดี กรมศิลปากรได้จัดขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้ นอกจากความสำคัญด้านประวัติศาสตร์แล้วสิ่งที่โดดเด่นของวัดใต้ ก็คือ เรือเทวดาอันงดงาม ที่ตั้งโดดเด่นอยู่ภายในวัด ซึ่งสร้างเพื่อใช้เป็นเมรุสำหรับตั้งศพของเจ้าอาวาสองค์เก่า หลังจากพิธีศพเสร็จสิ้นไป เรือเทวดาจึงกลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมเยือน
โบสถ์แสตนเลส วัดป่าลำขาแข้ง
โบสถ์แสตนเลส ณ วัดป่าลำขาแข้ง สถานที่ท่องเที่ยว Unseen ในอำเภอ ศรีสวัสดิ์ การไปชมโบสถ์นี้ต้องนั่งเรือหางยาวจากเขื่อนศรีนครินทร์ไปชมความงดงามของโบสถ์แห่งนี้ เพราะวัดตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ ตัวโบสถ์ส่องประกายงดงามยามเมื่อต้องแสงแด และเมื่อเข้าใกล้จะได้เห็นลวดลายฉลุ ของลายไทย บริเวณ ซุ้มประตูโบสถ์และหน้าต่าง นอกจากโบสถ์แสตนเลส ถัดมาไม่ไกลมีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ ขนาดกว้าง 8 เมตร สูง 12 เมตร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งทำด้วยแสตนเลสเช่นกัน ตั้งตระหง่านหันหน้า สู่แม่น้ำใหญ่ ดูสงบและร่มเย็นยิ่งนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น